พระวินัยปิฎก มหาวรรค [8. จีวรขันธกะ] 223. อุปนันทสักยปุตตวัตถุ
ส่วนจีวรจากอาวาสนั้นแล้วเดินทางไปอาวาสอื่น แม้พวกภิกษุในอาวาสอื่นนั้น
ประสงค์จะแบ่งจีวร จึงประชุมกัน แม้พวกภิกษุเหล่านั้นก็กล่าวกับผมอย่างนี้ว่า
ท่าน พวกภิกษุจะแบ่งจีวรของสงฆ์เหล่านี้ ท่านจะยินดีส่วนแบ่งไหม ผมตอบว่า
ท่านทั้งหลาย ผมขอยินดีส่วนแบ่งด้วย ได้รับจีวรแม้จากอาวาสนั้น จีวรเป็น
จำนวนมากจึงเกิดขึ้นแก่ผมอย่างนี้
พวกภิกษุถามว่า ท่านอุปนันทะ ท่านจำพรรษาในวัดหนึ่งแล้วยังยินดีส่วน
จีวรในวัดอื่นอีกหรือ
ท่านพระอุปนันทะกล่าวยอมรับตามนั้น
บรรดาภิกษุผู้มักน้อย ฯลฯ ตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า ไฉนท่าน
พระอุปนันทศากยบุตรจำพรรษาในวัดหนึ่งจึงยินดีส่วนจีวรในวัดอื่นอีกเล่า
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า ฯลฯ อุปนันทะ ทราบว่าเธอจำพรรษาในวัดหนึ่ง
แล้วยังยินดีส่วนจีวรในวัดอื่นอีก จริงหรือ
ท่านพระอุปนันทะทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงตำหนิว่า ฯลฯ โมฆบุรุษ ไฉนเธอจำพรรษา
ในวัดหนึ่งแล้วยังยินดีส่วนจีวรในวัดอื่นอีกเล่า โมฆบุรุษ การทำอย่างนี้มิได้ทำให้คน
ที่ยังไม่เลื่อมใสให้เลื่อมใส ฯลฯ ครั้นทรงตำหนิแล้วทรงแสดงธรรมีกถารับสั่งกับ
ภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุจำพรรษาในวัดหนึ่งแล้ว ไม่พึงยินดีส่วน
จีวรในวัดอื่นอีก รูปใดยินดี ต้องอาบัติทุกกฏ
เรื่องพระอุปนันทะจำพรรษาใน 2 อาวาส
สมัยนั้น ท่านพระอุปนันทศากยบุตรรูปเดียวจำพรรษาอยู่ใน 2 อาวาส
เพราะคิดว่า ด้วยอุบายนี้ จีวรจะเกิดขึ้นแก่เรามาก
พระวินัยปิฎก มหาวรรค [8. จีวรขันธกะ] 224. คิลานวัตถุกถา
ครั้งนั้น ภิกษุเหล่านั้นได้มีความคิดดังนี้ว่า พวกเราจะให้ส่วนแบ่งแก่ท่าน
พระอุปนันทศากยบุตรอย่างไรหนอ
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงให้ตามความประสงค์
ส่วนหนึ่งแก่โมฆบุรุษ ภิกษุทั้งหลาย ในกรณีที่ภิกษุรูปเดียวจำพรรษาอยู่ใน 2
อาวาสเพราะคิดว่า ด้วยอุบายนี้จีวรจะเกิดขึ้นแก่เรามาก ถ้าภิกษุจำพรรษาใน
อาวาสโน้นกึ่งหนึ่ง ในอาวาสโน้นอีกกึ่งหนึ่ง ก็พึงให้ส่วนจีวรอาวาสละกึ่งหนึ่ง
หรือให้ส่วนจีวรในอาวาสที่เธอจำพรรษามากกว่า
224. คิลานวัตถุกถา
ว่าด้วยภิกษุไข้
เรื่องภิกษุอาพาธเป็นโรคท้องร่วง
[365] สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งอาพาธเป็นโรคท้องร่วง ภิกษุนั้นนอนกลิ้ง
เกลือกไปมาบนปัสสาวะและอุจจาระของตนเอง
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคมีท่านพระอานนท์ตามเสด็จ เสด็จจาริกไปตาม
เสนาสนะ เสด็จเข้าไปทางที่อยู่ของภิกษุนั้น ได้ทอดพระเนตรเห็นภิกษุนั้นนอน
กลิ้งเกลือกไปมาบนปัสสาวะและอุจจาระของตนเอง จึงเสด็จเข้าไปใกล้แล้ว ได้ตรัส
ดังนี้ว่า ภิกษุ เธออาพาธเป็นโรคอะไร
ภิกษุนั้นทูลว่า ข้าพระองค์อาพาธเป็นโรคท้องร่วง พระพุทธเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า เธอมีภิกษุผู้คอยพยาบาลหรือ
ภิกษุนั้นทูลว่า ไม่มี พระพุทธเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า เหตุใด พวกภิกษุจึงไม่คอยพยาบาลเธอ